หลังจากที่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวปี 2020 พึ่งสิ้นสุดลง จะมีอะไรดีไปกว่าการตั้งคำถามเพื่อหาคำตอบเกี่ยวกับกีฬาที่ชื่นชอบสำหรับคอกีฬา เช่น “ใครคือนักวิ่งหญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล?” เมื่อเราพูดถึงการแข่งขันชิงแชมป์โลก ไม่ว่าจะเป็นกีฬากรีฑาหรือกีฬาประเภทอื่น ๆ ในการแข่งขัน สิ่งหนึ่งที่ผู้ชมอย่างเรา ๆ จะได้เห็นมากกว่าการลุ้นว่าใครจะคว้าเหรียญทองไปครองก็คือ ความมุ่งมั่นตั้งใจของนักกีฬาที่เชื่อว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย นักกีฬาทุกคนต่างก็ต้องใช้ความความทุ่มเทและผ่านการฝึกซ้อมมาอย่างหนัก อย่างการวิ่งระยะสั้นของผู้หญิง ที่เรากำลังจะพูดถึงและรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ไว้ ภายในบทความนี้ และนี่ก็คือ 7 รายชื่อ นักวิ่งน่องเหล็กสาว ที่ถูกบันทึกไว้ว่าเป็นนักวิ่งฝีเท้าเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่ง 7 คน นี้จะประกอบไปด้วย ชาวจาเมกา 1 คน, ชาวอเมริกัน 3 คน, ชาวเยอรมัน 1 คน, ชาวออสเตรเลีย 1 คน และชาวโปแลนด์ 1 คน
-
ไวโอเมีย ไทอุส (Wyomia Tyus)
อดีตนักกรีฑาสาวชาวอเมริกันผู้นี้คือ “ไวโอเมีย ไทอุส” เป็นคนที่ทำลายสถิติโลกการวิ่งของ วิลมา รูดอล์ฟ ได้ โดยคว้าเหรียญทองในการวิ่งระยะ 100 เมตร ไปครอบครอง แถมยังได้เหรียญเงินจากทีมวิ่งผลัด 4×100 เมตร หลังจากที่เธอได้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปี 1964 ด้วยวัยเพียง 19 ปี เท่านั้น ในกีฬาโอลิมปิกปี 1968 เธอกลับมาคว้าแชมป์ 100 เมตร อีกครั้ง ด้วยสถิติโลกใหม่ 11.08 วินาที ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่รักษาตำแหน่ง 100 เมตร โอลิมปิก เอาไว้ได้
-
แคธี ฟรีแมน (Cathy Freeman)
แคธี ฟรีแมน อดีตนักวิ่งชาวออสเตรเลียที่ถนัดการวิ่งระยะ 400 เมตร สำหรับเธอใช้เวลาเพียง 48.63 วินาที ต่อการวิ่ง 400 เมตรเท่านั้น นั่นทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่มีฝีเท้าเร็วที่สุดเป็นอันดับ 6 ตลอดกาลในกีฬาโอลิมปิกปี 1996 ต่อมา แคธี ได้รับเหรียญทองในการแข่งขัน Commonwealth Games เป็นครั้งแรกในปี 1990 ด้วยวัยเพียง 16 ปี และเธอได้รับรางวัลเหรียญทองจากการแข่งขัน 200 เมตรและ 400 เมตร ในการแข่งขันกีฬาที่แคนาดา ปี 1994 จนกระทั่งปี 2007 เธอก็ได้ก่อตั้งมูลนิธิที่เป็นของเธอเองโดยใช้ชื่อว่า Cathy Freeman เป็นมูลนิธิที่ช่วยเหลือและส่งเสริมแก่เด็กที่ขาดโอกาสทางการศึกษา
-
อิเรน่าส ซวินสกา (Irena Szewinska)
อดีตนักวิ่งระยะสั้นสาวชาวโปแลนด์ ที่ชื่อว่า อิเรน่าส ซวินสกา ได้เข้าร่วมการแข่งขันกรีฑา ในกีฬาโอลิมปิก 5 ครั้ง ระหว่างปี 1964 ถึง 1980 และได้รับเหรียญจากการแข่งขันไปทั้งหมด 7 เหรียญ โดยแบ่งเป็น 3 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง ในปี 1974 เธอกลายเป็นนักกีฬาหญิงคนแรกที่ทำลายสถิติ 50 วินาที ในระยะ 400 เมตร และยังสร้างสถิติโลกใหม่ ในระยะ 200 เมตร ในเวลาเพียง 22.21 วินาที เท่านั้น
-
ฟลอเรนซ์ กริฟฟิท จอยเนอร์ (Florence Griffith Joyner)
อดีตนักวิ่งสาวชาวอเมริกันระดับตำนานผู้นี้ มีชื่อเล่นว่า “โฟล – โจ” เธอครองสถิติโลกอย่างต่อเนื่อง สำหรับการวิ่ง 100 เมตร ด้วยเวลา 10.61 วินาที นอกจากนี้ในกีฬาโอลิมปิก ปี 1988 เธอปิดการแข่งขันด้วยการวิ่ง 100 เมตร ด้วยเวลาเพียง 10.54 วินาที เท่านั้น เร็วกว่าครั้งแรกไป 7 วินาที อย่างเฉียดฉิว! ต่อมาโฟลโจก็ได้รับรางวัลที่งาน James E.Sullivan Award และเมื่อวันที่ 21 กันยายน 1998 เธอก็ได้เสียชีวิตลงเนื่องจากอาการลมชักขณะหลับ ในวัย 38 ปี อย่างไรก็ตาม เธอยังคงครองสถิติโลกด้วยความเร็วที่เธอทำเอาไว้ในระยะ 100 เมตร และ 200 เมตร
-
คาร์เมลิตา เจเตอร์ (Carmelita Jeter)
คาร์เมลิตา เจเตอร์ นักวิ่งระยะสั้นชาวอเมริกัน ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “นักวิ่งสาวที่วิ่งเร็วที่สุดที่ยังมีลมหายใจ” นั่นก็เป็นฉายาที่เธอได้รับหลังจากที่ใช้เวลา 10.64 วินาที ในการวิ่งระยะ 100 เมตร เมื่อปี 2009 จากการแข่งขันที่ประเทศจีน ในขณะเดียวกันเธอผู้นี้เป็นผู้ชนะการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 100 สมัย และยังเป็นแชมป์โลก IAAF ในระยะ 100 เมตรครั้งที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วยเวลา 10.90 วินาที อีกด้วย
-
มาริต้า ค็อค (Marita Koch)
มาริต้า ค็อค อดีตนักกีฬาสาวทีมชาติเยอรมัน ในปี 1985 เธอทุบสถิติโลกของตัวเองในการวิ่ง 400 เมตร ซึ่งเธอทำเวลาไปได้อย่างรวดเร็ว 47.60 วินาที ต่างจากเดิมที่เคยทำเวลาได้ 49.19 วินาที ถือว่าเร็วกว่า 1.59 วินาที ไปแบบนิดเดียวเท่านั้น และมาริต้าเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำความเร็วในการวิ่ง 200 เมตร ได้ภายใน 22 วินาที ภายในปี 1979 นี่ก็เป็นนักวิ่งอีกหนึ่งคนที่สมควรได้รับตำแหน่ง 7 นักวิ่งน่องเหล็กสาว ที่มีฝีเท้าเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์
-
เชลลี่ แอนน์ เฟรเซอร์ ไพรซ์ (Shelly-Ann Fraser-Pryce)
นักวิ่งแข่งสาวชาวจาเมกา นามว่า เชลลี่ แอนน์ เฟรเซอร์ ไพรซ์ สาวแห่งทะเลแคริบเบียนผู้นี้ได้รับรางวัลเหรียญทองโอลิมปิกครั้งแรกด้วยวัยเพียง 21 ปี จากนั้นในปี 2012 เธอก็ยังคงป้องกันแชมป์ในการครองเหรียญทองไว้ได้ ต่อมาในปี 2017 เธอตัดสินใจได้หยุดพักจากวงการวิ่งไปชั่วขณะเนื่องจากชีวิตส่วนตัว แต่หนึ่งปีให้หลังเธอก็กลับมาผงาดอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง ด้วยการคว้าเหรียญทอง ในการแข่งขันชิงแชมป์โลกปี 2019 ด้วยวัย 32 ปี กลายเป็นนักวิ่งหญิงที่อายุมากที่สุดที่คว้าแชมป์โลกไปครองเป็นที่เรียบร้อย
การแข่งขันวิ่งระยะสั้นด้วยความเร็วภายในไม่กี่วินาทีก็ว่ายากแล้ว การรักษาแชมป์ให้อยู่ต่อไปได้อีกหลายสมัยนั้นคงเป็นเรื่องที่ยากกว่า และการทุบสถิติของโลกโดยการทำเวลาให้เร็วกว่าเดิม ที่ไม่ว่าจะเป็นการทำลายสถิติของตัวเองหรือของผู้ร่วมเข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็คงเป็นเรื่องที่ยากที่สุด แต่สำหรับนักวิ่งสาวเหล่านี้เหมือนเกิดมาเพื่อเป็นตำนานโดยเฉพาะ เพราะแต่ละสถิติที่ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์นั้นถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ในการวิ่งตามระยะทางโดยใช้เวลาไม่กี่วินาที และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมดของ 7 นักวิ่งน่องเหล็กสาว ที่มีฝีเท้าเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์
ฉีกกฎทุกการวิ่ง Hydroworx Underwater Marathon งานวิ่งสุดแปลกในอเมริกา
หากคุณเบื่อกับการวิ่งแบบเดิม ๆ อย่าง การวิ่งบนลู่วิ่งในฟิตเนส วิ่งบนทางเท้า – บนถนน วิ่งในห้อง ฯลฯ การวิ่งแบบธรรมดาทั่วไปอย่างที่เคยทำทุกวัน มันไม่ได้จูงใจให้ออกกำลังอีกต่อไป เราอยากให้คุณได้มารู้จักกับการวิ่งสุดแปลกนั่นก็คือ “วิ่งใต้น้ำ” Hydroworx Underwater Marathon การที่คนเข้าไปวิ่งอยู่ในน้ำจริง ๆ ว่าแต่การวิ่งชนิดนี้จะมีรายละเอียดอย่างไร จุดประสงค์ของการวิ่งแบบนี้คืออะไร ทำไมถึงมีการวิ่งชนิดนี้เกิดขึ้น ตามไปหาคำตอบได้พร้อม ๆ กัน ได้ในบทความนี้
ต้องบอกก่อนว่า งานวิ่งใต้น้ำ หรือ งานแข่งขันที่มีชื่อเรียกเต็ม ๆ ว่า Hydroworx Underwater Marathon นี้ ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 กันยายน ปี 2012 ที่เมืองเฮอร์ชีย์ ในรัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งงานที่ว่านี้ก็มีที่มาที่ไปไม่ใช่การสร้างขึ้นมาเพื่อความแปลกหรือเพื่อความท้าทายเพียงอย่างเดียว จุดประสงค์ของการแข่งขันนี้ก็คือ การสร้างขึ้นเพื่อหารายได้เข้า Eagle Fund กองทุนที่อยู่ภายใต้มูลนิธิ Andrews Institute Foundation เป็นมูลนิธิที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของนักกีฬาเยาวชน คนในชุมชน และเป็นการช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายของเหล่าทหารที่ได้รับการบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ พร้อม ๆ ไปกับการสร้างความตระหนักรู้ให้กับคนทั่วไปว่า การวิ่งใต้น้ำแบบนี้ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยบำบัดอาการบาดเจ็บได้
การแข่งขันที่ว่านี้ไม่ใช่เป็นการวิ่งตามช่องกั้นเลนในสระว่ายน้ำแต่อย่างใด ในงานการแข่งขันจะใช้ลู่วิ่งไฟฟ้า หรือ ที่เรียกกันว่า Treadmill โดยจะใช้ของยี่ห้อ HydroWorx มาตั้งไว้เรียงกันในสระว่ายน้ำที่จำลองขึ้นมา และหน้าที่ของผู้เข้าแข่งขันก็คือ การลงไปวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้านี้ โดยมีให้เลือก 4 ระยะ ตั้งแต่ 5 กิโลเมตร, 10 กิโลเมตร, 24 กิโลเมตร, และ 42 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับว่าผู้เข้าแข่งขันได้ลงสมัครระยะทางไว้ที่เท่าไหร่ไป
ref :